ป้ายกำกับ: #TradingTips

  • ทองคำ: ความแวววาวของการลงทุนและความลับเบื้องหลังการเพิ่มขึ้นของราคา

    ทองคำ: ความแวววาวของการลงทุนและความลับเบื้องหลังการเพิ่มขึ้นของราคา

    ทองคำ: ความแวววาวของการลงทุนและความลับเบื้องหลังการเพิ่มขึ้นของราคา

    ทองคำเป็นโลหะที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดชนิดหนึ่งที่มนุษย์นำมาใช้เพื่อการค้าและรักษาความมั่งคั่ง เมื่อเวลาผ่านไป ทองคำได้กลายเป็นที่หลบภัยที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีความวุ่นวายทางเศรษฐกิจและการเมือง ในบทความนี้ เราจะสำรวจราคาทองคำล่าสุดและเจาะลึกถึงปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของทองคำ

    ราคาทองคำในปัจจุบัน

    ณ วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในตลาดโลก โดยราคาทองคำ 1 ออนซ์ (31.1 กรัม) อยู่ที่ประมาณ 2,954.23 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้อขายแบบสปอต ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 13% นับตั้งแต่ต้นปี การเพิ่มขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความตึงเครียดทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก

    ปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาทองคำ

    ราคาทองคำได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองหลายประการ โดยปัจจัยที่สำคัญที่สุด ได้แก่:

    1. เงินเฟ้อ : ทองคำถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น อำนาจซื้อของสกุลเงินก็ลดลง ส่งผลให้ผู้ลงทุนหันมาซื้อทองคำเพื่อรักษามูลค่าเงินของตน
    2. อัตราดอกเบี้ย : การตัดสินใจของธนาคารกลางเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบต่อความน่าดึงดูดใจของทองคำ เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น นักลงทุนมักจะเลือกสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทน ซึ่งอาจลดความต้องการทองคำ ในทางกลับกัน อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะเพิ่มความน่าดึงดูดใจในการลงทุนทองคำ
    3. ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ : เหตุการณ์ทางการเมืองและความขัดแย้งระหว่างประเทศสร้างความไม่แน่นอนในตลาด ส่งผลให้ผู้ลงทุนหันไปแสวงหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ
    4. มูลค่าดอลลาร์สหรัฐฯ : มูลค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาทองคำมีความสัมพันธ์แบบผกผัน เมื่อค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ทองคำจะมีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนในสกุลเงินอื่น ส่งผลให้มีความต้องการเพิ่มขึ้นและราคาทองคำสูงขึ้น
    5. อุปทานและอุปสงค์ : ปริมาณทองคำที่ผลิตและขุด รวมถึงอุปสงค์จากอุตสาหกรรมและเครื่องประดับ มีบทบาทสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ ส่งผลให้ราคาทองคำได้รับผลกระทบ

    อิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์และการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์

    ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เมื่อไม่นานมานี้ มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์ได้ตัดสินใจหลายครั้งซึ่งสร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดโลก ส่งผลให้ผู้ลงทุนหันมาซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

    1. สงครามการค้าและภาษีศุลกากร : ทรัมป์กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10% และนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม 25% นอกจากนี้ เขายังประกาศแผนที่จะกำหนดภาษีนำเข้าสินค้าอื่น ๆ เช่น ไม้ รถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ และยา นโยบายเหล่านี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าโลกที่อาจเกิดขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้ทองคำมีความน่าดึงดูดใจมากขึ้นในการใช้เป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยง
    2. ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ : คำพูดที่รุนแรงของทรัมป์ต่อผู้นำประเทศอื่น ๆ เช่น การเรียกประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนว่าเป็น “เผด็จการ” ทำให้ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทวีความรุนแรงขึ้น สภาพแวดล้อมทางการเมืองที่ปั่นป่วนเหล่านี้กระตุ้นให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้น
    3. นโยบายดอลลาร์และอัตราเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ยังมีการคาดเดาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการประเมินสำรองทองคำของสหรัฐฯ ใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับกระทรวงการคลังและลดความจำเป็นในการออกพันธบัตร การดำเนินการดังกล่าวอาจนำไปสู่สภาพคล่องในตลาดที่เพิ่มขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ลงทุนหันมาซื้อทองคำเพื่อเป็นมาตรการป้องกัน

    เคล็ดลับสำหรับนักลงทุนและผู้ซื้อขาย

    • ติดตามข่าวเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ : การติดตามการตัดสินใจของธนาคารกลาง นโยบายรัฐบาล และการพัฒนาทางการเมืองสามารถช่วยคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาทองคำได้
    • กระจายพอร์ตการลงทุนของคุณ : สิ่งสำคัญคืออย่าพึ่งพาทองคำเพียงอย่างเดียว แต่ควรกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยง
    • ทำความเข้าใจเป้าหมายการลงทุนของคุณ : กำหนดว่าเป้าหมายในการลงทุนในทองคำของคุณคือการป้องกันความเสี่ยง การได้รับกำไรในระยะสั้น หรือการรักษาความมั่งคั่งในระยะยาว

    บทสรุป

    ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดในโลกการลงทุน โดยราคาได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ ดังนั้น การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้และการรับทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการพัฒนาของโลกจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้นักลงทุนและผู้ซื้อขายสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

  • คู่มือที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการซื้อขาย Forex

    คู่มือที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการซื้อขาย Forex

    ภาคสอง

    วิธีเริ่มต้นในการซื้อขายฟอเร็กซ์

    ขั้นตอนการเปิดบัญชีซื้อขาย
    ในการเริ่มซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์ เทรดเดอร์จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนสำคัญหลายขั้นตอนเพื่อเปิดบัญชีซื้อขาย ต่อไปนี้คือขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตาม:

    1. เลือกโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะสม
      ขั้นตอนแรกคือการเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและได้รับใบอนุญาตสำหรับการซื้อขายฟอเร็กซ์ การเลือกโบรกเกอร์ที่ให้สภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ปลอดภัยและโปร่งใส พร้อมทั้งสเปรดที่สามารถแข่งขันได้และบริการสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยมถือเป็นสิ่งสำคัญ
    2. ลงทะเบียนและเปิดบัญชี
      หลังจากเลือกโบรกเกอร์ที่ถูกต้องแล้ว คุณจะต้องลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชี คุณจะต้องระบุข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ และอีเมล พร้อมทั้งส่งหลักฐานยืนยันตัวตนตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
    3. เลือกประเภทบัญชี
      โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีบัญชีให้เลือกหลายประเภท (บัญชีทดลองและบัญชีจริง) บัญชีทดลองเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้เริ่มต้นเพื่อฝึกฝนการซื้อขายโดยปราศจากความเสี่ยง เมื่อคุณพร้อมแล้ว คุณสามารถเปิดบัญชีจริงได้
    4. การฝากเงิน
      หลังจากเปิดบัญชีจริงแล้ว คุณจะต้องฝากเงินทุนที่คุณต้องการซื้อขาย โบรกเกอร์ส่วนใหญ่เสนอวิธีการฝากเงินหลายวิธี เช่น การโอนผ่านธนาคาร บัตรเครดิต หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์
    5. ดาวน์โหลดแพลตฟอร์มการซื้อขาย
      โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ให้บริการแพลตฟอร์มหรือแอปซื้อขายออนไลน์ที่สามารถดาวน์โหลดบนอุปกรณ์พกพาได้ MetaTrader 5 เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดสำหรับการซื้อขายฟอเร็กซ์
    6. เริ่มต้นการซื้อขาย
      เมื่อบัญชีของคุณได้รับเงินแล้วและดาวน์โหลดแพลตฟอร์มการซื้อขายเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเริ่มวางคำสั่งซื้อและขายได้ตามการวิเคราะห์ที่คุณดำเนินการ

    ข้อดีของการเปิดบัญชีกับ DB Investing
    DB Investing เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในด้านการซื้อขายฟอเร็กซ์และสัญญาส่วนต่าง (CFD) นี่คือข้อดีบางประการที่ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ซื้อขาย:

    1. กฎระเบียบและการออกใบอนุญาต
      DB Investing ได้รับอนุญาตจากสำนักงานบริการทางการเงิน (FSA) ในประเทศเซเชลส์ และสำนักงานหลักทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์ (SCA) ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยรับประกันว่าบริษัทดำเนินงานภายใต้กรอบการกำกับดูแลที่เข้มงวดซึ่งปกป้องสิทธิของผู้ค้าและส่งเสริมความสมบูรณ์ในการดำเนินงาน
    2. สินทรัพย์ที่สามารถซื้อขายได้หลากหลาย
      DB Investing เสนอตราสารทางการเงินที่หลากหลายสำหรับการซื้อขาย รวมถึง:
      คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์
      – โลหะมีค่า เช่น ทองคำและเงิน
      – ดัชนีโลก
      – สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
      – CFD บนหุ้นและกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF)
      – สกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin และ Ethereum
    3. แพลตฟอร์มการซื้อขายขั้นสูง
      บริษัทนี้ให้บริการแพลตฟอร์ม MetaTrader 5 ยอดนิยมซึ่งถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม แพลตฟอร์มนี้มีเครื่องมือขั้นสูงสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ความสามารถในการซื้อขายอัตโนมัติ และฟีเจอร์การซื้อขายทางสังคมผ่าน ZuluTrade
    4. เลเวอเรจสูง
      DB Investing เสนออัตราเลเวอเรจสูงถึง 1:1000 ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมสถานะที่ใหญ่ขึ้นด้วยเงินทุนที่น้อยลง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวัง เนื่องจากอัตราเลเวอเรจจะเพิ่มทั้งความเสี่ยงและผลกำไรที่อาจเกิดขึ้น
    5. ประเภทบัญชีหลายประเภท
      DB Investing เสนอประเภทบัญชีหลายประเภทเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อขายที่แตกต่างกัน:
      บัญชี STP : ไม่มีคอมมิชชัน สเปรดเริ่มต้นจาก 1 pip
      บัญชี ECN : เหมาะสำหรับผู้ค้ามืออาชีพด้วยสเปรดเริ่มต้นจาก 0.0 pips และค่าคอมมิชชั่น 4 ดอลลาร์ต่อล็อต
      บัญชี PRO : ออกแบบมาสำหรับผู้ค้าที่มีปริมาณการซื้อขายสูงด้วยสเปรดเริ่มต้นจาก 0.3 pip และค่าคอมมิชชั่น 1.5 ดอลลาร์ต่อล็อต
      บัญชีอิสลาม : มีให้บริการโดยไม่มีดอกเบี้ยสวอปสำหรับผู้ค้าที่ต้องการตัวเลือกนี้
    6. การสนับสนุนการศึกษาอย่างครอบคลุม
      DB Investing มีแหล่งข้อมูลด้านการศึกษามากมาย เช่น บทความ หลักสูตร และเว็บสัมมนา นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาวิดีโอเพื่อวิเคราะห์ตลาดทุกวันและให้คำแนะนำอันมีค่าสำหรับเทรดเดอร์ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
    7. การสนับสนุนลูกค้าที่เป็นเลิศ
      บริษัทให้บริการช่วยเหลือลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อีเมล แชทสด และโทรศัพท์ บริการนี้ช่วยให้ผู้ค้าได้รับความช่วยเหลือที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและตลอดเวลา
    8. ฝากและถอนเงินง่าย
      DB Investing เสนอตัวเลือกการชำระเงินหลายรูปแบบ รวมถึงการโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศและต่างประเทศ บัตรเครดิต กระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น Skrill และ Neteller และสกุลเงินดิจิทัล เช่น USDT การถอนเงินจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและไม่มีค่าธรรมเนียม

    วิธีการซื้อและขายคู่สกุลเงิน
    วิธีดำเนินการซื้อขาย
    การซื้อขายฟอเร็กซ์เกี่ยวข้องกับการซื้อสกุลเงินหนึ่งไปพร้อมกับการขายอีกสกุลเงินหนึ่งในเวลาเดียวกัน ซึ่งทำได้ผ่านคู่สกุลเงิน โดยที่คู่สกุลเงินจะแสดงมูลค่าของสกุลเงินหนึ่งเมื่อเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง เมื่อคุณคาดว่ามูลค่าของสกุลเงินแรกจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่สอง คุณจะซื้อคู่สกุลเงินนั้น (ซื้อ) หากคุณคาดว่ามูลค่าของสกุลเงินแรกจะลดลง คุณจะขายคู่สกุลเงินนั้น (ขายแบบชอร์ต)

    ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนพื้นฐานในการดำเนินการซื้อขาย:

    1. การวิเคราะห์ตลาด
      ก่อนซื้อหรือขาย คุณควรวิเคราะห์ตลาดโดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือพื้นฐาน การวิเคราะห์ทางเทคนิคอาศัยการศึกษาแผนภูมิและรูปแบบ ในขณะที่การวิเคราะห์พื้นฐานเน้นที่ข่าวเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงิน
    2. เปิดสถานะการเทรด
      หลังจากตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายตามการวิเคราะห์ตลาดของคุณแล้ว คุณสามารถเปิดสถานะการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายของคุณ เช่น MetaTrader 5
      หากคุณคาดว่าสกุลเงินแรกจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่สอง คุณก็ควรซื้อคู่สกุลเงินนั้น (เช่น ซื้อ EUR/USD หากคุณคาดว่ายูโรจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ)
      – หากคุณคาดว่าสกุลเงินแรกจะตกเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่สอง คุณควรขายคู่สกุลเงินนั้น (เช่น ขาย GBP/USD หากคุณคาดว่าปอนด์อังกฤษจะตกเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ)
    3. กำหนดขนาดการค้า
      เมื่อเปิดตำแหน่ง คุณต้องตัดสินใจเกี่ยวกับขนาดการซื้อขาย ซึ่งโดยปกติจะวัดเป็นล็อต ล็อตมาตรฐานเท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก แต่คุณสามารถซื้อขายขนาดที่เล็กกว่าได้ เช่น ล็อตมินิ (10,000 หน่วย) หรือล็อตไมโคร (1,000 หน่วย)
    4. ตั้งค่าคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit
      เพื่อปกป้องเงินทุนของคุณ คุณควรตั้งคำสั่งหยุดการขาดทุนเพื่อกำหนดระดับการขาดทุนสูงสุดที่คุณยินดีจะรับได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถตั้งคำสั่งรับกำไรเพื่อปิดการซื้อขายเมื่อได้รับกำไรตามที่ต้องการ
    5. ติดตามตลาดและจัดการตำแหน่ง
      หลังจากเปิดการซื้อขายแล้ว คุณจะต้องติดตามตลาดและจัดการตำแหน่งของคุณตามการเคลื่อนไหวของราคา คุณสามารถปรับคำสั่ง stop loss และ take profit หรือแม้กระทั่งปิดการซื้อขายด้วยตนเองหากทิศทางของตลาดเปลี่ยนแปลง
    6. ปิดการซื้อขาย
      เมื่อคุณทำกำไรได้ตามเป้าหมายหรือต้องการจำกัดการขาดทุน คุณสามารถปิดการซื้อขายได้ เมื่อปิดการซื้อขาย คุณสามารถขายสกุลเงินที่คุณซื้อหรือซื้อสกุลเงินที่คุณขายกลับคืน ขึ้นอยู่กับประเภทของการซื้อขาย

    เคล็ดลับสำหรับการค้าขายที่ประสบความสำเร็จ

    • ใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง : ในการซื้อขายฟอเร็กซ์ เลเวอเรจช่วยให้คุณเพิ่มตำแหน่งของคุณโดยใช้เงินทุนน้อยลง อย่างไรก็ตาม คุณควรใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเลเวอเรจจะเพิ่มทั้งผลกำไรและขาดทุน
    • วิเคราะห์ตลาดอย่างต่อเนื่อง : ไม่ว่าคุณจะทำตามกลยุทธ์การวิเคราะห์พื้นฐานหรือทางเทคนิค สิ่งสำคัญคือต้องคอยอัปเดตความเคลื่อนไหวของตลาดและข่าวเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสกุลเงิน
    • ยึดมั่นกับแผนการซื้อขาย : ขอแนะนำให้ปฏิบัติตามแผนการซื้อขายเฉพาะที่รวมถึงกฎเกณฑ์สำหรับการจัดการความเสี่ยงและการบรรลุเป้าหมาย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการซื้อขายตามอารมณ์หรือขาดวินัย

    สรุป
    กระบวนการซื้อและขายคู่สกุลเงินขึ้นอยู่กับการตัดสินใจอย่างรอบรู้โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐาน การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้บรรลุผลสำเร็จในการซื้อขายและสร้างผลกำไรในขณะที่ลดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุด

    ในส่วนที่สองนี้ เราได้กล่าวถึงวิธีเริ่มต้นซื้อขายฟอเร็กซ์ ตั้งแต่ขั้นตอนในการเปิดบัญชี คุณสมบัติที่คุณควรพิจารณาในโบรกเกอร์ ไปจนถึงคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีการซื้อและขายคู่สกุลเงิน


    ในภาคที่สาม เราจะพูดถึงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการซื้อขาย รวมถึงช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าสู่ตลาดและคว้าโอกาสที่มีอยู่ ติดตามอ่านคู่มือการซื้อขายฟอเร็กซ์ฉบับสมบูรณ์นี้ต่อไป